Service Mind หรือ Service Speed ที่แบรนด์ควรใช้ครองใจลูกค้า?
Service Mind หรือ Service Speed ที่แบรนด์ควรใช้ครองใจลูกค้า?
ถ้าในการสร้างแบรนด์หนีไม่พ้นการสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกกับผู้บริโภคผ่านจุดสัมผัสต่างๆ (touchpoints) ซึ่งผู้เขียนชอบใช้คำว่าจุดปะทะเพราะเห็นภาพและได้อารมณ์กว่า เชื่อว่า พนักงานหรือบุคลากรของแบรนด์คือหนึ่งในจุดปะทะที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อประสบการณ์
เมื่อคนของแบรนด์คือส่วนหนึ่งของแบรนด์ เป็นนิมิตหมายอันดีที่ผู้ประกอบการต่างๆเริ่มเข้าใจถึงการทำงานของแบรนด์และตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างแบรนด์ ท่ีผ่านมาโจทย์ของการเตรียมพนักงานโดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นแนวหน้าของการปะทะ (Front of house) เช่น พนักงานขาย พนักงานบริการ พนักงานต้อนรับ เป็นต้น คือการสร้างจิตแห่งการบริการหรือ Service Mind เป็นคำที่ใช้กันมานานแสนนาน เจ้าของกิจการหรือซีอีโอมักจะวอนขอและเรียกร้องให้พนักงานแถวหน้าของตนมี Service Mind กันให้มากที่สุด บางองค์กรลามไปถึงบุคลากรภายใน (Back of house) ว่าควรต้องมีจิตบริการให้กับแผนกต่างๆสนับสนุนกันภายในให้มากขึ้นกว่านี้
มีแบรนด์ไหนที่ไม่อยากได้คนที่มี Service Mind บ้าง? แล้วถ้าถามผู้บริโภคหรือลูกค้าว่าชอบพนักงานที่มี Service Mind หรือเปล่า? คงทายคำตอบกันได้ แต่มีสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับ Service Mind ที่มักถูกมองข้ามไปก็คือเราจะมองเห็นมันได้ด้วยอะไร?
If it is not measurable, it is not manageable. หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวนี้ที่แสดงถึงการจัดการที่ดีจำเป็นที่จะต้องวัดสิ่งที่จะถูกจัดการออกมาได้ เช่นเดียวกับประสบการณ์เชิงบวกของแบรนด์ที่ส่วนหนึ่งเกิดจากการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ดังนั้นถ้า Service Mind คือวัตถุดิบที่สำคัญของการให้บริการ เราจะวัดและจัดการได้อย่างไร?
ลองใช้กลยุทธ์พัฒนาการบริการแบบ Outside In เปลี่ยนจากพฤติกรรมภายนอกก่อนแล้วให้การกระทำค่อยๆเปลี่ยนความคิดและแรงจูงใจที่ลึกเข้าไปข้างใน เพราะลูกค้าอาจไม่ทันมองเห็น Service Mind แต่รับรู้ได้ถึง Service Speed
1. ทำไมต้อง Service Speed? - หากเราลองหันไปดูคำร้องเรียนของลูกค้า มีไม่น้อยที่มักมีสาเหตุใหญ่มาจากความล่าช้า และยิ่งถ้าเราวิเคราะห์กันลึกลงไปถึงรากของปัญหาก็จะเห็นจุดอับของกระบวนการภายในที่ลูกค้าเกือบทั้งหมดไม่ต้องการทราบ สิ่งที่ลูกค้าต้องการคือคำตอบและผลลัพท์ ซึ่งแน่นอนความเร็วคือหัวใจของการกู้ความรู้สึกกลับคืนมา และในกรณีที่ไม่ใช่ข้อร้องเรียน ความพึงพอใจก็มักถูกชมเชยจากลูกค้าเพราะสาเหตุของความเร็วในการให้บริการเช่นกัน
2. สร้าง Service Speed ที่จับต้องได้ - เมื่อเราจะพัฒนาพนักงานและการบริการของเราให้สามารถจัดการได้ เริ่มต้นสร้างข้อตกลงเรื่องความเร็วที่วัดได้ชัดเจนให้เป็นหน่วยของเวลา เช่น การรับสายโทรศัพท์ การตอบอีเมล์ การรอคิดเงิน การคืนเงิน การรับมอบสินค้า การรอคิว การเสิร์ฟ การเก็บโต๊ะ และอีกมากมายที่สามารถสร้างมาตรฐานความเร็วขึ้นมาเพื่อใช้ควบคุมและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปได้
3. ปลูกฝังค่านิยมการตัดสินใจที่ถูกที่ควร - หลายครั้งที่ระบบหรือขั้นตอนการทำงานไม่เอื้อให้เกิดความเร็วในการให้บริการ การตัดสินใจจึงเป็นจุดพลิกผันสำคัญก่อนจะเกิดความไม่พอใจของลูกค้า เพียงเพราะแค่พนักงานไม่ได้ตัดสินใจหรือตัดสินใจไม่ได้ การผ่องถ่ายอำนาจการตัดสินใจในการทำงานและแก้สถานการณ์ ที่เรียกว่า empowerment เป็นวิธีการหนึ่งที่ดี แต่หากขาดค่านิยมการทำงานที่ส่งเสริมเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ อาจเป็นจุดเสี่ยงของการให้บริการได้เช่นกัน ดังนั้นการเสริมสร้างความฉลาดในการตัดสินใจที่ถูกที่ควรเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
แบรนด์ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของสหรัฐอเมริกาอายุกว่าร้อยปีอย่าง Nordstrom เชื่อในเรื่องพลังการตัดสินใจของพนักงานที่มีผลต่อการทำงานและการให้บริการที่เป็นเลิศ ถึงขนาดกำหนดลงในคู่มือพนักงาน (Employee handbook) ว่า Our only rule : Use good judgement in all situations หรือ กฎเพียงข้อเดียวของเราคือจงใช้วิจารณญาณที่ดีตัดสินใจในทุกสถานการณ์
วันนี้ถ้าอยากเป็นแบรนด์ที่ทรงพลัง อย่าละเลยการสร้างและพัฒนา Service Speed ควบคู่ไปกับการสร้างค่านิยมหลักในการทำงานร่วมกันที่เชิดชูการตัดสินใจที่ถูกที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง judgement ของบุคลากร เราต้องหา ต้องคัด ต้องสอน และต้องรักษาไว้ให้เป็นสินทรัพย์ที่มีค่าของแบรนด์ต่อไป
ถามใจลูกค้าหรือผู้บริโภคดูว่าหากแบรนด์ยังตอบโจทย์ในเชิงความต้องการ (functional) ไม่ได้ การจะได้ใจพวกเขามาด้วยประสบการณ์เชิงอารมณ์ (emotional) อาจจะเป็นกับดักระยะสั้นที่เสี่ยงต่อความยั่งยืนของแบรนด์ในระยะยาว
หรือคำนี้จะจริง? เก่งไม่กลัว กลัวไม่ไว
อาจารย์จี
Life Strategy by JEE
Copyright © 2017
Facebook : Life Strategy by JEE
Twitter : Life Strategy by JEE
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น